วันอังคารที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

มารู้จักลูกอมกันเถอะ!!

คุณรู้หรือไม่? ว่าลูกอมที่เรากินกัน มีมาตั้งแต่สมัยมนุษย์ถ้ำแล้ว!!

     ลูกอมอันแรกของโลก เกิดขึ้นตั้งแต่ยุคดึกดำบรรพ์

     ตามหลักฐานจาก สมาคมลูกกวาดแห่งชาติสหรัฐ อเมริกา (According to the NationalConfectionary Association) ได้กล่าวไว้ว่า ลูกอม หรือ อมยิ้ม ที่มีไม้เสียบแท่งแรกของโลกได้ถูกทำขึ้นโดยมนุษย์ถ้ำ ยุคดึกดำบรรพ์ โดยคาดว่าเกิดจากการเก็บรักษารวงผึ้งและน้ำผึ้ง จะใช้ไม้เก็บเพื่อป้องกันไม่ให้สูญเสียความหวาน ส่วนน้ำผึ้งที่เหลือเล็กๆน้อยๆที่ไม่ต้องการทิ้งพวกเขาก็จะเสียบแท่งไม้เล็กๆเอาไว้ จนเกิดเป็นลูกอมขึ้นครั้งแรกจากวิถีชีวิตด้านการถนอมอาหาร

     ต่อมามนุษย์เริ่มที่จะรู้จักน้ำตา ในช่วงแรกๆยุคกลางของยุโรปน้ำตาลเป็นสิ่งที่มีคุณค่าและราคาแพงมาก ผู้ที่จะมีน้ำตาลในครอบครองมักจะเป็นพวกขุนนางและชนชั้นสูงโดยมีความเชื่อว่าน้ำตาลรักษาโรคได้ เพื่อให้สามารถเก็บน้ำตาลไว้ได้เป็นเวลานานจึงมีการต้มน้ำตาลและทำให้อยู่ในรูปก้อนแข็ง และมีการเอามาเสียบแท่งเพื่อทำให้กินได้ง่ายและดูหรูหรา
      จนในศตวรรตที่ 17 เป็นยุคที่น้ำตาลมีเยอะและหาได้ง่าย มีการนำน้ำผลไม้มาผลิตเป็นลูกอม รสชาติต่างๆ เจ้าของ McAviney Candy Company พยายามที่นำลูกอมแข็งๆ ติดกับแท่งไม้เพื่อให้ลูกของเขา และในปี 1908 George Smith ได้ให้ชื่อลูกอมแข็งๆติดกับแท่งไม้ว่า" Lollipop" และได้รับความชื่นชอบ ในปีเดียวกันนั้นเองที่บริษัท  Racine Confectionary Machine Company ได้ผลิตเครื่องจักรผลิตอมยิ้มได้เป็นเครื่องแรกของโลก โดยสามารถผลิตได้ถึง 2400 ชิ้นต่อชั่วโมงเลยทีเดียว

     ในปัจจุบันลูกอมมีสีและกลิ่นที่หลากหลาย และได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มคนทุกช่วงวัย แต่คุณรู้ไหมว่า จริงๆแล้วลูกอมเหล่านี้มีหลายชนิดด้วยกัน และแต่ละชนิดยังมีชื่อเรียกที่แตกต่างกันไปอีกด้วย



     มารู้จักกับ ลูกอม ชนิดต่างๆกันเถอะ


Candy Cane

     ลูกอมสัญลักษณ์ของเทศกาลคริสต์มาส มีลักษณะเป็นลูกกวาดรูปไม้เท้าลายขาวสลับแดงกลิ่นรสเปปเปอร์มินต์ มีความหมายเกี่ยวกับเทศกาล คือรูปทรงโค้งเหมือนไม้เท้าคือตัว J แทนคำว่า Jesus สีแดงแทนเลือดของพระผู้เป็นเจ้า สีขาวแทนความบริสุทธิ์ของพระผู้เป็นเจ้า ส่วนรสเปเปอร์มินต์ที่มีความเผ็ดร้อนถือเป็เอกลักษณ์ของลูกกวาดชนิดนี้



photo credit:gizmodo



Lollipops


    ส่วนมากมีลักษณะกลมแบน มีก้านยาวเสียบสำหรับถือ สีสันสดใส มีส่วนผสมของ น้ำตาลทราย น้ำเชื่อมกลูโคส กรดซิตริก (Citric Acid) สำหรับปรับรสเปรี้ยว และสารสังเคราะห์ที่ใช้ปรุงแต่งสี กลิ่น รส ให้ลูกอมมีรสชาติต่างๆ สิ่งสำคัญในการผลิตลูกอมชนิดนี้คือบรรจุภัณฑ์ที่ใช้ต้องป้องกันไม่ให้ความชื้นผ่านเข้าไปยังเนื้อลูกอมได้ จึงจะทำให้เก็บไว้ได้นาน โดยไม่เยิ้มแฉะหรืออ่อนนิ่มไปเสียก่อน



photo credit:crafthubs

Nougat

    นู-กัด หรือทางยุโรปออกเสียงว่า นูก้า มีถั่ว 2-3 ชนิดผสมอยู่ในเนื้อขนม บางครั้งอาจใส่ผลไม้เชื่อมลงไปด้วย เวลาเคี้ยวจะเหนียวหนึบติดฟันคล้ายกับตังเมของบ้านเรา ปกติแล้วนูกัดจะมีสีขาวหม่น แต่ปัจจุบันมีการแต่งเติมสีสันเพิ่มความสวยงาม นอกจากนี้ยังเป็นหนึ่งในขนมหวาน 13 ชนิดในเทศกาลคริสต์มาสของแคว้นโปรวองซ์ (Provence) ในประเทศฝรั่งเศสอีกด้วย



photo credit:droid forums


Taffy

     แทฟฟี่เป็นลูกอมที่ต่างจากทอฟฟี่ แต่มักถูกเข้าใจผิดเรียกทั้งทอฟฟี่และแทฟฟี่ว่า "ทอฟฟี่"        แทฟฟี่จะมีลักษณะเหนี่ยวนุ่ม หวานมัน มีหลากหลายสีสัน เมื่อทำเสร็จจะห่อด้วยกระดาษไขเพื่อป้องกันการแข็งตัว แทฟฟี่ตามท้องตลาดส่วนใหญ่มักจะแต่งกลิ่นและรสผลไม้นานาชนิด




photo credit:salt water taffy


Toffee

     ทอฟฟี่เป็นลูกกวาดเนื้อแข็งที่ไม่มีผลึกน้ำตาลอยู่ในเนื้อ แต่มีส่วนผสมที่เป็นนมหรือผลิตภัณฑ์จากนม รวมไปถึงไขมันอยู่ด้วย มีทั้งประเภทเนื้อเหนียวสำหรับเคี้ยวหนืบและประเภทเนื้อแข็งสำหรับอม ส่วนใหญ่มีสีเข็มเนื่องจากผ่านขั้นตอนการทำที่ใช้เวลานานและอุณหภูมิที่สูงกว่าแทฟฟี่ จึงทำให้มีสีเข้มกว่า 



Photo credit: Arcor Coconut Butter Toffee Candy



Jujubes

     จูจุ๊บมีลักษณะเด่นที่สีสันสดใส มีกลิ่นและรสชาติหอมหวานหลากหลาย ส่วนมากจะเป็นรสผลไม้ชนิดต่างๆ เพิ่มเข้ามาด้วยจูจุ๊บที่นิยมมากที่สุดคือ อเมริกันจูจุ๊บ ทำจากแป้ง เจลาติน น้ำตาล และกลูโคส ด้วยความที่จูจุ๊บได้รับความนิยมอย่างมาก จึงมีหลายชนิดมากขึ้น ได้แก่ ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์จูจุ๊บ แคนาดาจูจุ๊บ เป็นต้น



photo credit:jujubes


Gumdrop 

     ลูกกวาดสีสันสดใส มีรูปร่างคล้ายถ้วยและโรยด้วยน้ำตาลป่น ส่วนใหญ่มีสีสันและรสชาติเลียนแบบผลไม้ชนิดต่างๆ ซึ่งบางคนอาจจะเรียกว่าสไปซ์ดรอป (Spicedrop) จะอมหรือเคี้ยวก็ได้ และยังนำไปตกแต่งเค้กหรือคัพเค้กเพื่อความสวยงามเก๋ไก๋ได้อีกด้วย





photo credit:gumdrop day



    เห็นแล้วใช่ไหมล่ะคะว่า เจ้าลูกอมน่าทานเหล่านี้มีความเป็นมาอย่างไรกันบ้าง เรียกได้ว่าเป็นของหวานที่มีอายุยืนยาวและสร้างรอยยิ้ม เสียงหัวเราะให้กับผู้คนมาหลายพันปีกันเลยทีเดียว อีกทั้งลูกอมยังได้ชื่อว่าเป็นขนมหวานของคนอารมณ์ดีอีกด้วย

   ถ้าอยากเป็นคนอารมณ์ดี ก็หยิบลูกอมขึ้นมากินกันเถอะ!!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น